กลาซิโก้มันแน่! "เทรนท์-เฮาจ์เซ่น" คัมแบ็ค, "เฟรงกี้" หายป่วย...ปรีวิว ลาลีกา

วันอาทิตย์ที่ 26 ตุลาคม 2568
เรอัล มาญอร์ก้า - เลบานเต้ (20:00 น.)
เรอัล มาญอร์ก้า ได้ อันโตนิโอ ซานเชซ กลับมาหลังพ้นโทษแบน แต่ยังไม่มี ทาคุมะ อาซาโนะ และ โทนี่ ลาโต้ ที่บาดเจ็บ
ส่วน มาราช คุมบุลล่า ยังต้องรอเช็กความฟิต ขณะที่ เวดัต มูริกี้ ดาวยิงตัวเก่งที่ยิงไปแล้ว 5 ลูก จะยังคงเป็นตัวความหวังในแดนหน้า และอาจได้เห็น ยาน เวอร์จิลี่ ดาวรุ่งวัย 19 ปีที่เพิ่งย้ายมาจากบาร์เซโลน่า ได้ออกสตาร์ตอีกนัด
ฝั่ง เลบานเต้ หัวหอกเนื้อหอมอย่าง คาร์ล เอตต้า เอยอง ที่ยิงไปแล้ว 4 ประตูจาก 6 นัด จะได้ลงตัวจริงต่อแน่นอน เช่นเดียวกับ อิบัน โรเมโร่ ที่ยิงเท่ากัน
ส่วน คาร์ลอส อัลบาเรซ มีอาการเจ็บข้อเท้าเล็กน้อย แต่ยังมีโอกาสลงเล่นได้ เกมนี้จึงน่าจะสนุกสูสี เพราะทั้งสองทีมต้องการแต้มสุด ๆ เพื่อขยับหนีโซนล่างของตาราง
สถิติที่น่าสนใจ
• เรอัล มาญอร์ก้า เก็บได้แค่ 2 แต้มจาก 6 นัดแรก แต่ช่วงหลังเริ่มฟอร์มดีขึ้น ชนะ 2 จาก 3 นัดหลังสุด
• จุดอ่อนของ เลบานเต้ คือเกมรับที่เสียไปถึง 17 ประตู มากที่สุดในลีกตอนนี้
• เลบานเต้ ไม่เคยบุกชนะ เรอัล มาญอร์ก้า ได้เลยนับตั้งแต่ปี 2005
• จากสถิติพบกันทั้งหมด 41 เกม เรอัล มาญอร์ก้า ชนะ 16, เลบานเต้ ชนะ 13
• ผลการเจอกันครั้งล่าสุด (เลบานเต้ 2-0 เรอัล มาญอร์ก้า)
เรอัล มาดริด - บาร์เซโลน่า (22:15 น.)
เรอัล มาดริด มีข่าวดีเมื่อ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, ดานี่ การ์บาฆาล และ ดีน เฮาจ์เซ่น กลับมาซ้อมและพร้อมมีชื่อในเกมนี้ แต่จะไม่มี อันโตนิโอ รูดิเกอร์ ที่เจ็บกล้ามเนื้อ และ ดาวิด อลาบา ที่ยังไม่หายจากอาการเจ็บขาหนีบ ส่วน ดานี่ เซบาญอส กลับมาพร้อมลงสนาม
ด้วยปัญหากองหลังไม่สมบูรณ์ เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้ น่าจะต้องยืนแบ็คขวาต่อไป โดยมี ราอูล อเซนซิโอ จับคู่ในเซ็นเตอร์แบ็คกับ เอแดร์ มิลิเตา ส่วนแนวรุกจะนำโดย จู๊ด เบลลิงแฮม, คีลิยัน เอ็มบัปเป้, วินิซิอุส จูเนียร์ และ ฟรานโก้ มาสตันตูโอโน่
ฝั่ง บาร์เซโลน่า ได้ เฟรงกี้ เดอ ยอง หายป่วยกลับมาซ้อมและพร้อมลงเล่น แต่ ฌูลส์ คุนเด้ ยังไม่แน่ว่าจะลงได้ เพราะมีอาการเจ็บจากการซ้อม ขณะที่ ราฟินญา ก็ยังไม่ฟื้นจากอาการบาดเจ็บแฮมสตริงทันเวลา ถือเป็นข่าวร้ายของทีม เพราะเจ้าตัวเป็นตัวรุกคนสำคัญ
ส่วนผู้เล่นที่หมดสิทธิ์แน่นอน ได้แก่ มาร์ค-อันเดร แทร์ สเตเก้น, กาบี้, โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้, ดานี่ โอลโม่ และ โฆอัน การ์เซีย ทำให้แนวรุกอาจใช้ ลามีน ยามาล, เฟร์มิน โลเปซ และ มาร์คัส แรชฟอร์ด ปั้นเกมอยู่ข้างหลัง เฟร์ราน ตอร์เรส
ถ้า คุนเด้ ลงไม่ได้ คาดว่า โรนัลด์ อเราโฮ่ จะยืนเซ็นเตอร์คู่กับ เปา กูบาร์ซี่ และอาจต้องขยับ เอริค การ์เซีย ไปเล่นแบ็คขวาชั่วคราวแทน
สถิติที่น่าสนใจ
• เรอัล มาดริด กำลังอยู่ในฟอร์มที่แทบจะสมบูรณ์แบบในฤดูกาลนี้ หลังเก็บชัยได้ถึง 11 จาก 12 เกมรวมทุกรายการ
• เกมนี้ถือเป็นโอกาสล้างตาสำหรับ เรอัล มาดริด เพราะเมื่อฤดูกาลที่แล้ว พวกเขาแพ้ บาร์เซโลน่า รวดทั้ง 4 นัดในทุกรายการ รวมถึงเกมที่โดนบุกถล่มถึงเบร์นาเบว 4-0 เมื่อเดือนตุลาคมด้วย
• บาร์เซโลน่า ยิงไปแล้วถึง 24 ประตู ซึ่งมากที่สุดในลีกซีซั่นนี้
• ผลการเจอกันครั้งล่าสุด (บาร์เซโลน่า 4-3 เรอัล มาดริด)
โอซาซูน่า - เซลต้า บีโก้ (00:30 น.)
ความพร้อมของ โอซาซูน่า จะไม่มี ไอมาร์ โอรอซ และ วาเลนติน โรซิเยร์ ที่ยังเจ็บ ขณะที่ ฮวน ครูซ ยังต้องรอเช็กฟิตก่อนเกม
อันเต้ บูดิเมียร์ ที่ยิงไปแล้ว 2 ประตูในซีซั่นนี้ยังคงได้ลงตัวจริงต่อเนื่อง โดยจะมี รูเบน การ์เซีย กับ บิคตอร์ มูนญอซ เป็นตัวสนับสนุนในแนวรุก
ทางฝั่ง เซลต้า บีโก้ จะไม่มี คาร์ล สตาร์เฟลต์ ที่ติดโทษแบนจากใบแดงในเกมก่อน ส่วน วิลเลียต สเวดเบิร์ก กับ โยเอล ลาโก้ ยังต้องรอเช็กอาการบาดเจ็บ
แนวรุกนำโดย บอร์ฆา อิเกลเซียส ที่ยิงไปแล้ว 6 ประตูในฤดูกาลนี้ และน่าจะได้ลงจับคู่กับ เฟร์ราน ฆุตกล้า ในแดนหน้าเหมือนเดิม
สถิติที่น่าสนใจ
• สถิติรวมของทั้งสองทีมที่เจอกันในทุกรายการ เซลต้า บีโก้ เหนือกว่าชัดเจน ชนะ 35 แพ้ 28 และเสมอกัน 11 ครั้ง
• จุดอ่อนของ โอซาซูน่า ในปีนี้อยู่ที่เกมรุก เพราะยิงได้แค่ 7 ประตูจาก 9 เกม น้อยที่สุดในลีก
• ผลการเจอกันครั้งล่าสุด (เซลต้า บีโก้ 1-0 โอซาซูน่า)
ราโย บาเญกาโน่ - เดปอร์ติโบ อลาเบส (03:00 น.)
ราโย บาเญกาโน่ จะหมดสิทธิ์ใช้งาน อับดุล มูมิน และ ลุยซ์ เฟลิเป้ ที่ยังเจ็บอยู่ แต่ที่เหลือพร้อมลงสนามทั้งหมด โดย เซร์คิโอ กาเมโญ่ กลับมาช่วยทีมได้อีกครั้งหลังพ้นโทษแบน
อัลบาโร่ การ์เซีย คือคนที่โดดเด่นสุดของ ราโย ในซีซั่นนี้ ยิงไปแล้ว 7 ประตูจาก 13 เกม และจะได้ลงตัวจริงแน่นอน รวมถึง ฆอร์เก เด ฟรูโตส ที่ยิงไปแล้ว 5 ลูก ก็จะได้ออกสตาร์ทเช่นกัน
ด้าน เดปอร์ติโบ อลาเบส ได้ข่าวดีเมื่อ มาเรียโน่ ดิอาซ หายเจ็บกลับมาแล้ว แม้ยังไม่น่าจะได้ลงตัวจริงก็ตาม ส่วนที่เหลือของทีมฟิตพร้อมทั้งหมด คาดว่า ลูคัส โบเย่ และ โทนี่ มาร์ติเนซ จะได้ลงในแนวรุก
แนวรับมี นาอูเอล เตนาญ่า ที่โชว์ฟอร์มดีอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ในแดนกลางคาดว่า อันโตนิโอ บลังโก้ และ ปาโบล อิบานเญซ จะได้ออกสตาร์ทร่วมกันอีกครั้ง
สถิติที่น่าสนใจ
• ราโย บาเญกาโน่ ทำผลงานน่าผิดหวังในเดือนกันยายน เพราะไม่ชนะใครเลย แต่พอเข้าสู่เดือนตุลาคม ฟอร์มกลับมาดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ชนะไป 3 จาก 4 นัด และยังไม่แพ้ใครด้วย
• เดปอร์ติโบ อลาเบส ชนะได้เพียงนัดเดียวจาก 4 เกมหลังสุดที่เจอกับ ราโย บาเญกาโน่ และไม่เคยบุกมาชนะที่สนามของ ราโย ได้เลยตั้งแต่เดือนกันยายน ปี 2018
• ผลการเจอกันครั้งล่าสุด (เดปอร์ติโบ อลาเบส 0-2 ราโย บาเญกาโน่)
Posted at 0 26, 2025 12:45 pm อ่านแล้ว 11 ครั้ง



























